[Review GAME PC] One Piece Burning Blood

Review game One Piece Burning Blood

One Piece Burning Blood เกม One Piece ภาคล่าสุดจาก Bandai Namco เป็นปะทะแบบ Fighting ต่างจากตระกูล One Piece Pirate Warriors ที่เป็นเกมลุยด่าน ตัวเกมจะเน้นการเล่นสามคนเป็นทีม ซึ่งสามารถเลือกตัวละครจัดทีมได้หลากหลายและตัวละครในเกมก็มีมาให้เยอะพอสมควรเลย

Gameplay

ตัวเกมเป็นปะทะจึงไม่ค่อยมีอะไรมากมาย โดยทั่วไปมีอยู่ไม่กี่ปุ่ม สี่เหลี่ยมโจมตีเบา สามเหลี่ยมแรงหน่อย (แต่ช้า) Oคือการกัน และ X กระโดด แต่ไม่หมดแค่นั้น แน่นอนสิ ถ้าแค่นี้น่าเบื่อจะตาย ยังมีสกิลสกิลและความสามารถพิเศษจากผลปิศาจ แถมถ้าสกิลสุดยอดที่เว่อวังอลังการอีกต่างหาก

เริ่มจากสกิลสกิล โดยการกด L1 ค้างแล้วตามด้วย สี่เหลี่ยม หรือ สามเหลี่ยม หรือ O ในการใช้สกิลพิเศษ มันดูรุนแรงมากๆและที่สำคัญไม่เสียเกจอะไรเลย คือจะใช้ก็กดเอา กดเอา อย่างเอลโทลของเอเนล Red hawk ของลูฟี่หรือกระทั่ง เมอิโกของอาคาอินุ เสียอย่างเดียวบางตัวสกิลพวกนี้ช้าเหลือเกิน กว่าจะใช้ก็โดนยำไปละ ด้วยความที่เกมมีการต่อปะทะที่รวดเร็ว จึงทำให้ต้องกดกันยิกๆ เหมือนกัน บางทีอยากจะใช้สกิลเท่แต่ไม่ทันก็ต้องต่อยไปก่อน หรือบางทีเราโดนต่อยไปเรื่อยๆ ก็ไม่ทันตั้งตัว จึงมีอีกปุ่มที่ใช้ในการรับมือดังกล่าว สำหรับโรเกียมันเจ๋งมาก

จุดนี้ตัวเกมโฆษณามาตั้งแต่ Trailer แรก คือการเปลี่ยนตัวเป็นสสารแล้วจะโดนต่อยไม่เข้า ด้วยการกด R1 ค้าง แต่จะเสียเกจด้านบน ซึ่งมันก็พอจะให้เราแก้สถานการณ์การโดนต่อยแหลกได้ ที่สำคัญมันเท่มาก แบบตอนที่ลูฟี่ต่อยสโมกเกอร์ยังไงยังงั้น แต่ส่วนของพวกพารามิเซียหรือโซอนก็ไม่ค่อยมีไร แค่ทำให้เร็วขึ้น แต่ก็มีข้อยกเว้นบางตัวเช่น โจส มัลโก้ ที่ R1 แล้วแข็ง ตีไม่เข้าคล้ายๆ โรเกีย

ต่อกันที่สกิลสุดท้ายคือ สกิลสุดยอด กด R3 เมื่อเกจข้างๆ 4 ขีดเต็ม มันจะ Rage จนทำให้เราแกร่ง ตีแรงและสามารถใช้สกิลสุดยอดได้โดยการกด R3 อีกครั้ง แต่สกิลสกิลก็จะหลากหลายไปแล้วแต่ตัว อย่างพระเอกของเรา ลูฟี่ เป็นเกียร์ 4 ที่รุนแรง สกิลก็โหด แถมดูใหม่ อันนี้แค่ Rage ยังไม่ใช่สกิลสุดยอด ส่วนบางตัวหรือแท้ๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนเพราะแปลงเฉยๆ เอาไว้เตรียมใช้สกิลใหญ่ โดยการกด R3 อีกครั้ง

Graphics

กราฟฟิคในเกม ถือว่าทำออกมาได้ดีและสมแท้ในด้านสีสันและการแสดงความรู้สึก อย่างการอ้าปากของตัวละคร หรือสกิลทางที่แสดงออกมาได้สมแท้ตามต้นฉบับ โดยเฉพาะตอน Cutscenes ในโหมดstoryนะ สมแท้แบบต้นฉบับเลยทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่าใช้ได้ในแง่ของด้านภาพเลย มีความกลมกล่อม

Sound

เสียงในเกม ถือว่าทำออกมาได้ตามต้นฉบับเลย เสียงพากย์ก็ตามอนิเมะ สนุก สะใจ มีเพลงประกอบจากในเมะอยู่บ้าง แต่เหมือนจะได้ยินมาว่า เวอร์ชั่น Anison จะเป็นเวอร์ชั่นที่มีเพลงจากต้นฉบับอนิเมะเพิ่มมาด้วย น่าสนใจ แต่ราคาไม่น่าเลยยเอาเป็นว่าเรื่องเสียงใช้ได้เลย ดูอินเหมือนกำลังดูการ์ตูน

ว่าด้วยตัวละคร

ตัวละครในเกมมีมาให้ทั้งหมด 42 ตัว แต่แรกเริ่มไม่ได้มีมาทั้งหมดหรอกนะ ตามฉบับปะทะที่ต้องปลดล็อกเอา และมีตัวละครช่วยเหลือ เอาไว้เพิ่มเติม Ability ระหว่างเกมอีก 40 กว่าตัว ตัวละครหลักๆก็มี กลุ่มหมวกฟาง หนวดขาว สามพลเรือเอก เจ็ดเทพโจรสลัด และตัวละครระดับบอสจากเกาะต่างๆ รวมถึงสาวๆ ตัวละครในเกมจะสามารถปลดล็อกได้จากโหมดstoryบางส่วน คือ ตัวที่เราได้เล่นในstory ก็จะได้มาฟรี ส่วนบางตัวที่ไม่มีในstoryก็จะต้องใช้เงินซื้อเอา โดยเงินก็ได้จากการต่อปะทะ

โหมดการเล่น

ตัวเกมแบ่งออกเป็น 3 โหมดใหญ่ๆสำหรับเล่นคือ โหมดstory โหมดตามล่าค่าหัว และโหมด VS ปกติ โผล่มาถึงเราจะสามารถเข้าได้เพียงโหมดเดียวคือstory จึงกึ่งบังคับให้เล่นstoryไปซักพักก่อนถึงจะได้เล่นปะทะกัน โดยจะขอแนะนำในโหมดstory โหมดแรกของเกมกันก่อน

·         โหมดstory

storyในภาคนี้จะเป็น Arc ของ Marineford หรือสงครามสุดยอดระหว่างหนวดขาวกับกองทัพเรือ มันมีแค่เกาะเดียวแท้ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ตัวละครหลักในการเล่น เริ่มจาก ลูฟี่ หนวดขาว อาคาอินุ และเอส ตามลำดับ โดยจะมีล็อกให้เราเข้าไปเพื่อปะทะกับใครตามstoryเป็นสีส้ม (storyของตัวละครหลักนั้นๆ) และสีฟ้า เป็นของตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก

ในโหมดนี้ไม่มีความซับซ้อนซักเสกิลไหร่ แค่ปะทะๆ เมื่อชนะก็จะได้เงินมา แค่ปะทะให้ชนะตามล็อก ก็สามารถเปิดstoryใหม่ๆไปยันจบได้ เมื่อจบก็จะเปิดไปสู่ตัวละครใหม่ต่อไป เล่นไปเรื่อยๆ 4 ตัวละครหลักก็จะจบเกม โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบstoryแบบนี้เสกิลไหร่ มันดูซ้ำซาก อย่างการหนวดขาวเจออาคาอินุใน Part ของหนวดขาว แต่ภายหลังก็ต้องมาเล่นอาคาอินุปะทะกับหนวดขาวเหมือนกันใน Part ของอาคาอินุเอง ทำให้รู้สึกซ้ำ เข้าใจว่าจะแบ่งเป็น Part ให้ความสำคัญกับตัวละครนั้นๆ แต่แบบนี้มันจำเจ

โดยเฉพาะ Cutscenes ที่หากเล่นต่อกันจนจบในรอบเดียวจะเห็นได้เลยว่าซ้ำ มันคือstoryใน Timeline เดียวกัน แล้วที่สำคัญเรียงงงๆ ด้วย แทนที่ให้อาคาอินุไว้หลังสุดเพราะมันมีฉากจบสงครามพอดี แต่นี่ดันเอาเอสไว้หลังสุด เข้าใจว่าอยากให้ตรึงตราโดยการจบที่เอสตาย แต่ไม่หรอก เราเห็นเอสตายไปตั้งแต่ Part ลูฟี่ละ ควรจะจบที่แชงคูสมาหยุดสงครามใน Part ของอาคาอินุมากกว่า

โดยส่วนตัวคิดว่าควรจะรวมstoryเป็นภาพใหญ่ภาพเดียว หมายถึง ถ้าจะเป็น Arc Marineford แท้ ก็ให้มีภาพกว้างแล้วเลือกเอาว่าในล็อกไหนจะได้เล่นตัวอะไร โดยแยกเป็นขั้นๆตามลำดับเหตุการณ์ก็ได้ จะได้ไม่ซ้ำ แต่ก็เข้าใจล่ะนะว่าตัวเกมค่อนข้างน้อยในส่วนstory เลยอาจจะแยกให้มันดูเยอะ ไม่ให้รู้สึกว่าจบเร็วไป แท้ๆ storyก็จบเร็วนะ ราวๆ 3 ชม. ก็จบได้แล้ว

·         โหมดล่าค่าหัว

มันจะเป็นการเล่นเหมือน Mission ให้ปะทะกับคนนี้คนนั้น เพื่อให้ได้เงินรางวัลมา แท้ๆไม่มีไรมากเลย ส่วนใหญ่ก็แค่ปะทะให้ชนะโดยเราจัดทีมอะไรก็ได้ มาปะทะกับพวกที่อยู่ในใบประกาศจับ เมื่อปะทะชนะก็ได้รับเงินไปตามที่ระบุ หลังๆ จะเริ่มมี ภารกิจ ให้ว่าต้องใช้ตัวนี้ปะทะเสกิลนั้นหรือต้องห้ามทำนู่นนี้ แต่มีไม่เยอะนักหรอก หลักๆ คือทำไงก็ได้ให้ชนะก็พอ ความยากก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามดาวของใบประกาศ

·         โหมด Versus

มีการเลือกเล่นคนเดียวปะทะกับคอม หรือปะทะกับคน เลือกได้ตั้งแต่ปะทะตัวๆ ยันจัดทีมมา 9 คน โดยแบ่งรอบละ 3 ก็ได้ และมีโหมดTraining สำหรับฝึกซ้อมและลองสกิล